Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
Đòn bẩy trong thị trường tài chính: Rủi ro và cơ hội mà nhà đầu tư cần biết
Leverage(เลเวอเรจ)คืออะไรและทำไมจึงสำคัญ
เลเวอเรจ หมายถึงกลวิธีการใช้เงินยืมเพื่อขยายขนาดตำแหน่งการลงทุนให้มากกว่าเงินทุนที่มีอยู่จริง เครื่องมือทางการเงินนี้ช่วยให้ผู้ลงทุนและนักเทรดสามารถควบคุมสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อยกว่าปกติได้
ในตลาด Forex, Bitcoin, ทองคำ, ดัชนี และสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ leverage คืออะไร ก็ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานที่ทุกเทรดเดอร์ต้องเข้าใจเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพในการเพิ่มผลกำไร leverage ก็มาพร้อมกับปัญหาสำคัญ:หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับการคาดการณ์ ผลขาดทุนอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเกินกว่าเงินทุนเดิมได้ การเข้าใจลึกเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ leverage และการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เลเวอเรจ
การขาดทุนอย่างรวดเร็วและทะลัก
เมื่อใช้ leverage ขนาดเล็กน้อยแม้แต่การเปลี่ยนแปลงราคาเพียง 1-2% ก็สามารถส่งผลให้มูลค่าบัญชีลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ leverage 100 เท่า และตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับการคาดการณ์เพียง 1% ก็อาจทำให้เงินทุนเดิมหมดสิ้นได้
การเรียกเพิ่มหลักประกัน(Margin Call)
ในขณะที่ตำแหน่งลงทุนกำลังสูญเสีย โบรกเกอร์อาจออกการแจ้ง “Margin Call” เรียกให้คุณเพิ่มเงินหลักประกัน หากไม่สามารถเพิ่มทุนได้ระบบจะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติ
ความผันผวนของตลาด
ตลาด Forex และคริปโตมีความผันผวนสูง การเคลื่อนไหวราคาที่ไม่คาดคิดจะทำให้ leverage เพิ่มความเสี่ยงขึ้นไม่น้อย
ความผิดพลาดในการตัดสินใจ
เลเวอเรจขยายทั้งกำไรและขาดทุน การวิเคราะห์ที่ไม่เพียงพออาจนำไปสู่ผลขาดทุนที่มหาศาล
ผลกระทบทางจิตวิทยา
การใช้ leverage สูงเกินไปสร้างความเครียดให้กับนักลงทุน ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ขาดเหตุผลและควบคุมไม่ได้
บทเรียนจากการใช้เลเวอเรจในทองคำ
สมมติว่าคุณต้องการเทรดทองคำที่ราคา 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นไป
กรณีปกติ(ไม่ใช้ leverage):
กรณีใช้ leverage 100 เท่า:
การประยุกต์ leverage ในตลาดคริปโต
Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่นๆ มักใช้ leverage ในการเทรด โดยมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง
ตัวอย่างเชิงตัวเลข:
สถานการณ์: บัญชีมี 1,000 ดอลลาร์ ต้องการเทรด Bitcoin ด้วย leverage 10:1
หากไม่ใช้ leverage:
หากใช้ leverage 10 เท่า:
ข้อดีของการใช้เลเวอเรจอย่างถูกต้อง
1. เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน
ด้วยการใช้ leverage ให้ถูกต้อง ผู้ลงทุนสามารถควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่ได้ ทำให้ผลกำไรจากความเคลื่อนไหวราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่า
2. ประสิทธิภาพทางการเงิน
การใช้ leverage ช่วยให้เงินทุนจำนวนน้อยสามารถสร้างรายได้จำนวนมากได้ ลดปริมาณเงินทุนที่ต้องใช้ในแต่ละการเทรด
3. ความยืดหยุ่นในการจัดการกระแสเงินสด
ผู้ลงทุนสามารถใช้เงินเดียวกันเพื่อเข้าสู่หลายตำแหน่งการลงทุนพร้อมกันได้ ทำให้การลงทุนมีสภาพคล่องมากขึ้น
4. ฝึกฝนทักษะการจัดการเงินทุน
การใช้ leverage อย่างมีสติช่วยให้นักลงทุนพัฒนาทักษะการบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุนได้ดีขึ้น
5. การกระจายพอร์ตโฟลิโอ
ด้วยการใช้ leverage ที่เหมาะสม ผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและลงทุนในหลายสินทรัพย์ได้พร้อมกัน
มาร์จิ้น(Margin)และเลเวอเรจ(Leverage):ความเข้าใจที่ถูกต้อง
แม้ว่าทั้งสองคำมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ:
มาร์จิ้น คือเงินที่นักลงทุนต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เป็นหลักประกัน ทำให้สามารถเทรดได้ แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์(เช่น 1%, 5%, 10%)
เลเวอเรจ คือเครื่องมือที่ช่วยขยายขนาดการเทรด แสดงเป็นอัตราส่วน(เช่น 1:50, 1:100, 1:500)
ตัวอย่างการเปรียบเทียบ:
สรุปว่า มาร์จิ้น เป็นเงินค่ำนำ ส่วน leverage คืออะไร ก็คือเครื่องมือที่ขยายการเทรด
การเลือกระดับ Leverage ที่เหมาะสม
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากการใช้ leverage ที่ต่ำ เช่น 4:1 หรือ 5:1 เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น
นักเทรดที่มีประสบการณ์อาจใช้ leverage ที่สูงกว่า เช่น 50:1 หรือ 100:1 แต่ต้องมีระบบบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด
ควรจำไว้ว่า:แม้จะคาดการณ์ถูกต้อง 100 ครั้งติดต่อกัน แต่เพียงครั้งเดียวที่คาดการณ์ผิดด้วย leverage สูง ก็อาจทำให้เงินทุนทั้งหมดหมดสิ้นได้
บทสรุปและคำแนะนำสำคัญ
Leverage เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพแต่มีความเสี่ยงสูงในเวลาเดียวกัน การใช้งานให้ถูกต้องคือกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน
ข้อเสนอแนะที่สำคัญ:
ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงไม่มีวันเท่าไหร่ก็ไม่มาก เพราะการรักษาเงินทุนคือลำดับความสำคัญที่สูงที่สุดในการลงทุน